ธุรกิจเติบโตได้ด้วยการจัดการสินค้าคงคลัง
การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) คือ การควบคุมและจัดการให้ธุรกิจมีสินค้าปริมาณสินค้าคงคลัง
ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการ
การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) คืออะไร
การจัดการสินค้าคงคลังคือการรักษาจำนวนสินค้าให้ถูกต้องตามสถานการณ์ คำว่า “สินค้า” ไม่ได้หมายความเฉพาะผลิตภัณฑ์เท่านั้น
แต่ยังรวมถึงวัตถุดิบ ชิ้นส่วน เครื่องมือ อุปกรณ์ และอื่นๆ ที่มีมูลค่าทางการเงิน การจัดการสินค้าคงคลังมีความสำคัญในการทำธุรกิจ
และสามารถแบ่งออกได้เป็นการจัดการสต๊อกและสินค้าคงคลัง
บริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างไร เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้
1. กำหนดปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสมกับธุรกิจ
การกำหนดปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสมกับธุรกิจ สามารถทำได้ด้วยการจดบันทึกสินค้าเข้า
และออกในคลัง โดยรวบรวมการเบิกจ่ายในอดีต ควบคู่ไปกับการดูยอดขาย เพื่อให้มีสต๊อกเพียงพอ
ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
2. มีการวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบที่ดี
การคำนวณค่าปริมาณการสั่งซื้อที่มีต้นทุนต่ำที่สุด สามารถทำได้โดยหาค่า Economic Order Quantity
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า EOQ ซึ่งเป็นวิธีที่แพร่หลาย และใช้กันมานาน เพราะเป็นการคำนวณหาปริมาณ
การสั่งซื้อที่ทำให้ประหยัดทั้งต้นทุนในการสั่งซื้อ และต้นทุนในการเก็บรักษา และบอกถึงปริมาณ
ที่ควรสั่งซื้อจำนวนเท่าใดจึงจะประหยัดที่สุด
3. หาจุดหรือวงรอบเวลาการสั่งซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบที่ต้องใช้
การหาจุดหรือวงรอบเวลาที่ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าใหม่ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องทำ
เพราะเป็นจุดที่ใช้เตือนสำหรับการสั่งซื้อในรอบถัดไป เพื่อไม่ให้เกิดการค้างของสินค้าคงคลัง
ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวนั่นเอง
4. เจรจาต่อรองขอส่วนลดเมื่อซื้อปริมาณวัตถุดิบจำนวนมาก
ผู้ประกอบการที่ใช้วัตถุดิบใดอย่างสม่ำเสมอ และทราบปริมาณการใช้ที่แน่นอนของตนเอง
ควรจะเจรจากับผู้ขายโดยตกลงด้วยตัวเลขของปริมาณการใช้วัตถุดิบนี้ทั้งปี แต่จะต้องให้ผู้ขาย
ทยอยส่งของให้ทุกเดือนแทน โดยทำสัญญาเป็นรายปีเพื่อได้ส่วนลดมากขึ้น
5. บริหารจัดการสินค้าคงคลังไม่ให้มีสินค้าคงคลังที่ไม่มีการเคลื่อนไหว
การมีสินค้าคงคลังที่ไม่มีการเคลื่อนไหวในระยะเวลานาน ถือเป็นปัญหาที่หลาย ๆ ธุรกิจต้องประสบ
จึงจำเป็นจะต้องมีการวางแผนในการจัดการสินค้าคงคลังที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ให้สินค้าเหล่านั้น
ถูกจำหน่ายออกไปไม่ว่าทางใดหรือทางหนึ่ง รวมไปถึงประเมินถึงความเป็นไปได้ในการตัดสต๊อก
หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้วัตถุดิบไม่เสื่อมสภาพและล้าสมัยจนไม่สามารถจัดจำหน่ายได้
6. จัดสถานที่ให้ที่เหมาะสม และมีเอกสารการเบิกจ่ายสินค้าคงคลัง
การจัดสถานที่ให้ที่เหมาะสมในการเก็บสินค้า ต้องมีเอกสารการเบิกจ่ายสินค้าคงคลังนั้น เพื่อควบคุม
การซื้อและการเบิกจ่ายสินค้าคงคลังได้ โดยจะต้องออกแบบให้มีช่องอนุมัติสำหรับเบิกสินค้าคงเหลือได้
เพื่อควบคุมการรั่วไหลของสินค้าคงคลังนั่นเอง
7. จัดสถานที่ที่เหมาะสมในการเก็บสินค้าคงคลัง
การจัดสถานที่ที่เหมาะสมในการเก็บสินค้าคงคลัง จำเป็นจะต้องคำนึงถึงลักษณะการจัดวางรูปแบบสินค้า
และการวางสินค้าให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านความชื้นที่จะส่งผลกับตัวสินค้าหรือวัตถุดิบ
และความสะดวกต่อการขนย้าย
8. นำระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้ควบคุมสต๊อก
ในกรณีที่เป็นธุรกิจขนาดกลางซึ่งมียอดขายสูง มีการผลิตสินค้าหลายแบบ และมีรายการที่เป็นวัตถุดิบ
จำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องนำระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้ควบคุมสต๊อกของสินค้าคงคลัง
เพื่อใช้ควบคุมและนำมาบริหารงาน

เหตุผลที่ธุรกิจต้องจัดการสินค้าคงคลังด้วย ECOUNT ERP
1. สามารถควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างแม่นยำ
สามารถรู้จำนวนสินค้าที่มีอยู่จริงในสต็อก ช่วยให้วางแผนการสั่งซื้อสินค้าใหม่ได้อย่างเหมาะสม
ลดความเสี่ยงในการขาดสินค้าหรือมีสินค้าค้างสต็อกมากเกินไป
2. ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
เพื่อให้มั่นใจว่าจำนวนสินค้าที่บันทึกไว้ในระบบบัญชีตรงกับจำนวนสินค้าจริงที่มีอยู่จริง
ซึ่งจะส่งผลต่อความถูกต้องของงบการเงิน
3. สามารถป้องกันการสูญหาย
ช่วยตรวจสอบว่ามีการสูญหายของสินค้าเนื่องจากการขโมย การชำรุดเสียหาย หรือความผิดพลาด
ในการบันทึกข้อมูลหรือไม่
4. ปรับปรุงระบบการจัดการสินค้าคงคลัง
ช่วยระบุปัญหาในระบบการจัดการสินค้าคงคลัง เช่น การขาดแคลนสินค้า สินค้าค้างสต็อกเกินไป
ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางบัญชี
การตรวจนับสินค้าคงเหลือเป็นส่วนหนึ่งของหลักเกณฑ์ทางบัญชีที่กำหนดให้ธุรกิจต้องทำการ
ตรวจนับสินค้าอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ
6. ช่วยลดต้นทุน
เมื่อคุณรู้จำนวนสินค้าคงคลังที่แน่นอน คุณสามารถวางแผนการผลิตหรือการสั่งซื้อสินค้าได้
อย่างเหมาะสม ลดต้นทุนในการเก็บรักษาสินค้าที่ไม่จำเป็น
7. สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือ
การมีข้อมูลสินค้าคงคลังที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณต่อลูกค้า
ผู้ลงทุน และหน่วยงานภาครัฐ
บทสรุป
ปัจจุบันการจัดการสินค้าคงคลังเน้นการหมุนเวียนสินค้าตลอดเวลาเพื่อรักษาความสดใหม่และลดการสูญเสีย
จากการเก็บรักษานานเกินไป ความสำคัญของการจัดการสินค้าคงคลังสามารถสรุปได้ดังนี้ การจัดการสินค้าคงคลัง
ที่มีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่จะเติบโต ทั้งในด้านการเงินและการดำเนินงาน โดยการใช้เทคนิคต่างๆ
เช่น การวางแผนความต้องการ การปรับปรุงสินค้าคงคลัง การติดตามซัพพลายเออร์และสต็อกสินค้าสำรองธุรกิจต่างๆ
สามารถปรับกระบวนการทำงาน ลดต้นทุน และทำให้ลูกค้าพึงพอใจ